ชนิดของหลอดไฟที่ใช้ในการอ่านหนังสือ จากอดีตถึงปัจจุบัน

ชนิดของหลอดไฟที่ใช้ในการอ่านหนังสือ จากอดีตถึงปัจจุบัน

  1. หลอดไส้ Incandescent Lamp ขั้วเกลียว E27
    ยิ่งให้แสงสว่างมากยิ่งร้อนมาก สิ้นเปลืองพลังงาน
  2. หลอดนีออน หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ Fluorescent Lamp 10W, 15W
  3. หลอดประหยัดไฟ แบ่งเป็นCompact Fluorescent Lamp ขั้วเกลียว E27
    หลอดตะเกียบ 9W, 11W
  4. หลอดประหยัดไฟ LED ขั้วเกลียว E27
    ประหยัดพลังงานได้มากถึง 90%เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบหลอดไส้แบบดั้งเดิมยุคแรก
    และอายุการใช้งานมากกว่าหลอดไฟแบบหลอดไส้ถึง15เท่า

เป็นหลอดไฟที่ไม่ปล่อยรังสียูวีทำให้ปลอดภัยต่อผิวของเรา บางรุ่นสามารถปรับโทนสีได้แนวโน้มในอนาคตจะถูกพัฒนาให้ใช้พลังงานน้อยลงเรื่อยๆอีกด้วย
ไม่แผ่ความร้อนจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดได้ยาวนานกว่าหลอดชนิดอื่น

โคมไฟอ่านหนังสือ ควรวางตำแหน่งไหน

โคมอ่านหนังสือ ควรวางอยู่มุมซ้ายของหัวโต๊ะ

เพื่อไม่ให้แสงตกกระทบมาแยงสายตาและเป็นการลบเงาที่เกิดขึ้นระหว่างอ่านหรือเขียนหนังสือด้วยการจัดวาง ควรวางในตำแหน่งที่ให้แสงเข้าทางด้านข้างซ้ายมือ
จะช่วยให้อ่านหนังสือได้อย่างสบายตาและนานยิ่งขึ้น

———————————————————————————————

แสงไฟกับการอ่านหนังสือ
แสงสว่างที่ดีต่อดวงตาสำหรับอ่านหนังสือจะต้องไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป ส่วนตัวแนะนำหลอด LED BULB ขนาด 5,7 วัตต์ ซึ่งเพียงพอแล้ว เพราะถ้ายิ่งแสงสว่างจ้ามากจนเกินไป จะไม่สบายตาและเป็นอันตรายต่อดวงตา

สำหรับในเวลากลางคืน เมื่อเราปิดไฟในห้องและใช้แสงไฟจากโคมอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว ความสว่างของแสงหลอดไฟจะยิ่งมีมากกว่าปกติ

 

 

 

แสงสว่างที่ไม่เหมาะสมในการอ่านหนังสือ

จะทำให้ตาเกิดการระคายเคืองและมีอาการตาเพลีย คือปวดรอบตาตาพร่ามัว ตาลายเป็นพักๆ เคืองตา แสบตาหรือมีน้ำตาไหลร่วมด้วย เมื่อต้องอ่านหนังสือเป็นเวลานานๆในแสงสว่างที่ไม่เหมาะสม การอ่านหนังสือในบริเวณที่มีแสงจากธรรมชาติควรเลี่ยงแสงสว่างจ้าเพราะจะทำให้สายตาอ่อนล้า แต่ถ้าหากมืดเกินไปก็เป็นปัจจัยให้สายตาสั้นได้

การอ่านหนังสือในเวลากลางคืนควรเลือกแสงไฟที่ไม่ขาวมากจนเกินไปหรือแสงสีเหลืองจนเกินไปเพราะแสงแบบนี้จะรบกวนสายตาควรเลือกแสงนวล(WARMWHITE)
ซึ่งเหมาะแก่การอ่านหนังสือมากกว่า

 

 

 

เลือกหลอดไฟต้องดูอะไรบ้าง

เลือกหลอดไฟต้องดูอะไรบ้าง

ค่าพลังงาน (วัตต์)
เป็นค่าพลังงานที่ใช้
ยิ่งวัตต์สูง หมายถึงแสงสว่างมาก กินไฟมาก

ค่าอุณหภูมิสี Color Temperature
มีหน่วยเป็น Kelvin (K)
DAYLIGHT สีมีอุณหภูมิที่ 6000k เป็นแสงโทนขาว
เป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เนื่องจากทำให้แสงที่สะท้อนจากวัตถุไม่เพี้ยน
นิยมใช้ตามบ้านเรือน สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม

COOLWHITE สีมีอุณหภูมิที่ 4000 – 5000K เป็นแสงโทนเหลืองขาว
มักนิยมใช้กับงานป้าย งานโชว์สินค้า ไฟบนเวที

WARMWHITE สีมีอุณหภูมิที่ 2000 – 3000k
จะเป็นแสงโทนเหลืองเข้ม เป็นสีที่มีผลต่อความรู้สึก
ทำให้อบอุ่น ผ่อนคลาย มักถูกนำไปใช้ในสถานบริการ
เช่น ร้านสปา โรงแรม และตามบ้านเรือนอย่างในห้องนอน ห้องน้ำ

ค่าฟลักซ์แสงสว่าง (ลูเมน)
ค่าลูเมนมาก ความสว่างก็จะมากขึ้นเช่นกัน

ค่าความถูกต้องของสี  Color rendering index หรือ CRI
คือค่าที่บอกว่าแสงไฟจากหลอดนื้ เมื่อกระทบกับวัตถุจะทำให้สีของวัตถุเพี้ยนจากความจริงมากน้อยเพียงใด ซึ่งใช้มาตรฐานจากแสงอาทิตย์ที่ถือว่าเป็นแสงธรรมชาติ หากหลอดไฟใดมีค่า CRI สูง ยิ่งให้ความถูกต้องของสีวัตถุใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์มากที่สุด ทำให้สีไม่เพี้ยนและดวงตาของเราไม่ทำงานหนักเกินไป

ค่าประสิทธิภาพ (Efficiency)
เป็นการนำค่าลูเมน(ความสว่าง) มาหารด้วยค่าวัตต์ (พลังงาน)
ความหมายของค่าที่ได้ คือ
พลังงาน 1 วัตต์ของหลอดไฟนี้ ให้แสงสว่างกี่ลูเมน
ยิ่งสูงยิ่งแปลว่า 1 วัตต์ให้แสงสว่างเยอะ ทำให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

ขั้วหลอดไฟแบบเกลียว
แนะนำขั้ว E27 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน

Add to cart